แน่นอนว่าในตอนนี้ เกิดคำถามมากมายว่ามีการมีชีวิตนอกโลกหรือไม่เป็นเผ่าเดียวกันในจักรวาลของเรา จึงเป็นคำถามยอดนิยมเลยที่ตั้งคำถามให้กับนักวิทยาศาสตร์ และในปัจจุบันนี้ก็ทำการค้นหามาเป็นเวลายาวนานแล้ว และได้มีการค้นพบสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นนอกโลกเราด้วย และยังมีปริศนามากมายที่เราจะต้องแก้ไขอีกมากมาย และทำให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์ต่อไป สิ่งมีชีวิตต่างดาว แน่นอนว่าดาวเคราะห์น้อยยังมีข้อมูลที่น่าสงสัยอยู่ว่าจะเป็นยานของต่างดาว สิ่งมีชีวิตต่างดาว ดาวเคราะห์น้อย  ดาวเคราะห์น้อยประหลาดโอมูอามูอา ต้องยอมรับเลยว่าในตอนนี้ยังเถียงกันไม่หยุดเลย ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ต่างประเทศในแต่ละประเทศนั้น ถกเถียงกันเป็นเรื่องราว ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรมันเป็นสิ่งประดิษฐ์จากการเกิดของมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า และยังมีการค้นพบด้วยว่ามีการระเหยเป็นไอน้ำ ออกมาเป็นในรูปแบบของแก๊สไฮโดรเจนบริสุทธิ์ และยังมีมีการขับเคลื่อน ด้วยความเร็วที่ผิดปกติอย่างมากจึงทำให้หลายคนสงสัยว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า  อาจจะพบสิ่งมีชีวิตของดาวศุกร์ ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบัน มีนักวิทยาศาสตร์มากมาย ได้ทำการวิจัยแก๊สต่างๆมากมาย จึงทำให้การค้นคว้านั้นเป็นที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก และมีการพบสิ่งมีชีวิตอ้างอิงจากการค้นหาบนดาวศุกร์ มีสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือพื้นดาวศุกร์ ก๊าซฟอสฟีน แน่นอนว่าเราเคยค้นพบบนโลกของเราแล้ว เป็นชิ้นส่วนของที่อยู่ในลำไส้ของสัตว์…

ในยามค่ำคืนนั้นบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมาย ในอดีตหลายครั้งเราเคยสงสัยว่าดวงดาวพวกนั้นมีที่มาจากที่ไหนกัน ทำไมถึงได้มีมากมายนับไม่ถ้วนและส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับสวยงามเช่นนี้ กล่าวกันว่าแสงต่างๆที่มาจากดวงดาวนั้น บางดวงมีแสงในตัวเองเหมือนกับดวงอาทิตย์ แต่บางดวงก็ไม่มีอยู่จริง แสงที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงลำแสงสุดท้ายที่กำลังเดินทางมายังไม่ถึงโลกของเราเท่านั้นเอง และต้นกำเนิดของแสงที่มีความสว่างมากขนาดนั้นเกิดมาจากการระเบิดของดวงดาวซึ่งทิ้งความงามสุดท้ายเอาไว้ให้เราชื่นชมก่อนที่จะสลายหายไปนั่นเอง ดาวทุกดวงก็มีเกิดและแตกสลายไปเช่นเดียวกันไม่ได้อยู่เป็นอมตะตลอดไป เพียงแต่ระยะเวลากว่าที่ดาวดวงหนึ่งจะสลายหายไปนั้นใช้เวลายาวนานนับหลายแสนล้านปี แม้พวกมันจะระเบิดและกระจายออกอนุภาคของมันก็ไม่ได้สลายหายไป แต่กลายเป็นฝุ่นผงเศษเล็กเศษน้อยกระจายไปทั่วทั้งอวกาศ เราได้รู้ช่วงเวลาสุดท้ายของดวงดาวแล้ว ส่วนช่วงเวลาเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ที่เราเรียกว่า เนบิวลา ปรากฏการณ์ที่เป็นจุดกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง เนบิวลา สร้างดวงดาวขึ้นมาได้อย่างไร เศษละอองฝุ่นที่กระจายไปทั่วทั้งอวกาศ แม้จะดูเหมือนลอยไปลอยมาแต่พวกมันมีแรงดึงดูดระหว่างมวลซึ่งกันและกันเมื่อรวมตัวกันมากๆก็จะกลายเป็นเนบิวลา พวกมันจับตัวกันอยู่อย่างหลวมๆและค่อยค่อยหนาแน่นขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านไปหลายพันล้านปี จากที่มีขนาดเล็กก็ดึงดูดซึ่งกันและกันเป็นมวลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีแรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้อุณหภูมิตรงใจกลางสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นพลังงานความร้อนและแผ่รังสีอินฟราเรดออกมา พอถึงจุดหนึ่งที่เนบิวลามีมวลมากมายมหาศาลและมีความหนาแน่นจนไม่สามารถแผ่ความร้อนออกมาได้ เหตุการณ์นี้ทำให้อุณหภูมิภายในเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีมวลมากก็ยิ่งมีแรงโน้มถ่วงเพิ่มมากขึ้นจนถึงจุดหนึ่งที่แรงโน้มถ่วงมากพอจนเอาชนะแรงดันที่เกิดจากการขยายตัวของก๊าซร้อนๆได้ เนบิวลาจะยุบตัวลงและเริ่มหมุนรอบตัวไปตามกฏอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงมุมจนกลายเป็นลักษณะรูปแบนคล้ายจาน ตรงใจกลางของจานรวมมวลนั้นเรียกกันว่าโปรโตสตาร์ ไม่ใช่ทุกเนบิวลาที่จะสร้างดวงดาวขึ้นมาได้ เมื่อโปรโตสตาร์ยุบตัวและหมุนวนจนอุณหภูมิภายในสูงมากพอก็จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น ให้จะแจ้งจะหลอมรวมกลายเป็นฮีเลียมและบริเวณแกนกลางจะมีความดันสูงพอที่จะต้านแรงโน้มถ่วงของดาวให้กลายเป็นทรงกลมและค่อยๆพัฒนากลายเป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงในตัวเองต่อไป แต่หากกลุ่มก๊าซในโปรโตสตาร์นั้นมีมวลไม่มากพอที่จะสร้างแรงดันให้มีอุณหภูมิสูงมากพอที่จะสามารถเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น โปรโตสตาร์ก็จะยุบตัวลงกลายเป็นดาวแคระน้ำตาล ในทางกลับกันหากมีแรงกดดันและมีอุณหภูมิสูงมากเกินไป ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นก็จะสูงเกินกว่าจะรักษาสมดุลย์เอาไว้ได้ดาวก็จะระเบิดสลายหายไปในทันที  เมื่อมีดาวฤกษ์ก่อกำเนิดขึ้นมาได้แล้ว ฝุ่นและละอองต่างๆก็ยังคงดึงดูดซึ่งกันและกันและถูกดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ดึงดูดเอาไว้อีกที ทั้งหมดจึงโคจรหมุนไปรอบๆดาวฤกษ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ บางครั้งฝุ่นและละอองเหล่านี้ก็รวมตัวมีมวลที่หนาแน่นขึ้นจนกลายเป็นดาวเคราะห์ ส่วนเศษฝุ่นและละอองบางส่วนก็อาจถูกลมสุริยะพัดออกไปจากวงโคจร ดาวฤกษ์ที่อยู่ใจกลางนั้นไม่ได้คงอยู่เสมอไปเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ในระบบสุริยของเรา นับวันก็ยิ่งอ่อนกำลังลงและคงมีวันหนึ่งที่จะสูญสลายหายไปตามวัฏจักรของมัน

ระบบศูนย์กลางของระบบสุริยะหรือว่าอยู่ใกล้โลกมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และยังมีประโยชน์มากมายเลยสำหรับการที่มีพระอาทิตย์ที่ส่งแสงมาให้โลกเราได้รับพลังงาน แต่ละดาวนั้นก็แตกต่างกันออกไปในอากาศต่างๆยังส่งผลต่อในระยะยาวด้วยมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลต่างๆว่าจะเป็นพวกกระแสน้ำ เดี๋ยววันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ดวงอาทิตย์ กันดีกว่าว่ามันมีหน้าที่ทำอะไรกันบ้างอะไรคือพระอาทิตย์เดี๋ยววันนี้เราจะมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับดวงอาทิตย์กันดีกว่า ดวงอาทิตย์ คืออะไร ซึ่งเป็นวัตถุในท้องฟ้าและเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์เป็นอย่างมากเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ และดวงอาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุณหภูมิขึ้นลงได้เสมอจากการสะสมของตัวมันเอง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดวงอาทิตย์นั้นเป็นปฏิกิริยาทางนิวเคลียร์ ยังเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นคล้ายๆดาวแบบธรรมดาไม่ต่างจากดาวอื่นแต่คุณสมบัตินั้นต่างกัน คุณสมบัติของดวงอาทิตย์ รูปบ้านของดวงอาทิตย์และมีลักษณะกลมซึ่งมันต่างจากดาวอื่นเป็นอย่างมากคือดวงอาทิตย์นั้นก็คล้ายเกือบจะกลมทั้งหมดเลยแต่ไม่กลมสักทีเดียว และประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมายอย่างมากของดวงอาทิตย์ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 7 แสนกิโลเมตร ซึ่งบอกเลยหรือว่ามันใหญ่กว่าโลกเราเป็นอย่างมาก ได้ยังเชื่อว่าอุณหภูมิขอดวงอาทิตย์นั้นอยู่ประมาณ 60 องศาซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เฉลี่ย โครงสร้างของภายในของดวงอาทิตย์ ซึ่งบอกได้ว่าโครงสร้างของดวงอาทิตย์นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 6 ชั้นเลยซึ่งกระจายอยู่ในดวงอาทิตย์จะมี แกนกลางของดวงอาทิตย์ เขตกัมมันตรังภาพรังสีซึ่งเป็นพลังงานที่สามารถกระจายไปยังไกลมาก และยังมีเขตพาความร้อนด้วยที่มีความร้อนอย่างมากที่ถ่ายเทพลังงานความร้อนนำมาสู่โลกเรา โฟโตสเฟียร์…

มีหลายคนนั้นสงสัยว่า เราสำรวจอวกาศ เพื่ออะไร แค่บนโลกเราก็ยังอยู่กันไม่หมดเลย ทำไมเราถึงจะต้องไปนอกอวกาศเพื่อสำรวจด้วย ต้องบอกแล้วว่ามีคนที่สนใจในการสำรวจอวกาศ หลายคนคงคิดว่าโอกาสนั้นอยู่ไกลกับโลกมากแต่จริงๆแล้วบอกเลยว่าไม่ห่างไกลจากโลกเราเท่าไหร่ โดยเฉพาะที่มีคนไทยได้รับความสนใจในการสำรวจอวกาศ จึงได้สร้างยานแล้วส่งไปสำรวจอวกาศ ภารกิจคือเดือนบนดวงจันทร์ของโลก เราสำรวจอวกาศ เพื่อหาความรู้ เขาบอกเลยว่าการที่เราสำรวจอวกาศนั้นจะได้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะทำให้ในอนาคตนั้นเด็กนักเรียนนักศึกษาทุกคนจะได้รู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากขึ้น ต้องบอกเลยว่าเป็นความรู้ที่ใกล้ตัวของเรามาก การที่เราส่งคนไปสำรวจอวกาศทุกครั้งจะได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมมา ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนนั้นได้ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวอะไรก็แล้วแต่จากอวกาศยกตัวอย่างเช่น ดาวพลูโตดาวเคราะห์น้อย จุดตำแหน่งของดาวต่างๆ เป็นต้น สังเกตอวกาศ ต้องบอกเลยว่าโลกเรานั้นอาจจะมีภัยพิบัติที่รุนแรงเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อุกกาบาตตก การที่เราไปสำรวจนั้นจะทำให้เราได้ความรู้ในการสังเกตการณ์อวกาศ ว่าอุกกาบาตที่จะตกนั้นมีความรุนแรงแค่ไหนลักษณะใหญ่มากหรือเปล่าและสามารถตกในเวลาตอนไหน การที่เราสำรวจจะทำให้เรารู้และประเมินผลได้ ที่เราได้ยินเขาบอกว่าอุกกาบาตนี้จะไม่ชนโลกนี่แหละเกิดจากการสำรวจและสังเกตการณ์ในอวกาศ…